ไม้พีแคนอเมริกัน และไม้ฮิกคอรีนั้นเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกันจากหลากหลายสายพันธุ์ แต่ต้นไม้สองต้นนั้นไม่สามารถจำแนกได้ ดังนั้นจึงเข้าโรงเลื่อยและขายโดยเอามาผสมกัน
Carya spp.
อาจเรียกอีกอย่างว่า ไม้พีแคนฮิกคอรี
ต้นพีแคนเจริญเติบโตขึ้นตามธรรมชาติในแถบฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา และแถบหุบเขามิสซิสซิปปีเป็นส่วนมาก เป็นไม้ผลที่สำคัญและยังมีขนาดที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ข้อมูลจาก FIA แสดงให้เห็นว่าปริมาณการเติบโตของต้นพีแคนในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 46.8 ล้าน ม3 คิดเป็น 0.3% จากปริมาณการเจริญเติบโตของไม้เนื้อแข็งทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ต้นพีแคนอเมริกันเติบโตอยู่ที่ 931,000 ม3/ต่อปี ในขณะที่การเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 355,000 m3/ต่อปี ปริมาณสุทธิ (หลังการเก็บเกี่ยว) เพิ่มขึ้น 576,000 ม3 ในแต่ละปี การเติบโตของต้นพีแคนในสหรัฐอเมริกา นั้นสูงกว่าการเก็บเกี่ยวในสี่รัฐหลักที่ทำการผลิตอย่างรัฐอาร์คันซอ รัฐแคนซัส รัฐลุยเซียนาและรัฐมิสซิสซิปปี
ไม้เลื่อยแปรรูปพีแคนพร้อมจำหน่ายในเกรดส่งออกแบบไม่เลือกสีและแบบผสม ไม้เกรด FAS ของ NHLA มีความกว้างอย่างต่ำเท่ากับ 4 นิ้ว (101.6 มม) เนื้อไม้เกรด NHLA ที่ต่ำกว่า (คุณภาพชั้น 1 และ 2) นั้นจะมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดและหยาบแบบทันสมัย ไม้แปรรูปส่วนใหญ่จะผลิตให้บางลง (4/4" และ 5/4) แม้ว่าจะมีวัสดุที่มีความหนาในจำนวนจำกัดก็ตาม
เนื้อไม้ของต้นพีแคนนั้นมีสี ลวดลายของลายเนื้อไม้และรูปร่างที่แตกต่างจากกลุ่มที่หลากหลายนี้ มีพื้นผิวที่หยาบกระด้าง และลายเนื้อไม้ส่วนใหญ่จะเป็นลายทางตรง แต่สามารถเป็นลอนหรือขรุขระก็ได้ กระพี้จะมีสีขาวหรืออาจจะมีสีน้ำตาลปนอยู่เล็กน้อย ในขณะที่แก่นไม้มีสีซีดจากน้ำตาลออกเหลืองไปจนถึงดำ ริ้วลายแร่สีม่วงเข้มเป็นลักษณะตามธรรมชาติ รอยนกจิกก็ถือเป็นลักษณะทั่วไปและไม่ถือว่ามีตำหนิ
เนื้อไม้ของต้นพีแคนถือว่ามีความแข็งแรงมาก และจัดอยู่ในหมวดหมู่ไม้ที่ดัดด้วยไอน้ำได้อย่างยอดเยี่ยมแรงบดขยี้สูง มีความแข็งแรงสูงและทนต่อแรงกระแทกสูงมาก
เครื่องเรือน ตู้ใส่ของ ขั้นบันได เครื่องมือเดือย และอุปกรณ์กีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม้ฮอกกี้ เพราะมีความยืดหยุ่น