ต้นเอล์มอเมริกันเป็นไม้ที่รอดชีวิตจากโรคเอล์มดัตช์ที่ทำลายจำนวนประชากรของต้นเอล์มที่อื่น ๆ ในโลก
Ulmus rubra
เอล์มลื่น เอล์มน้ำตาล เอล์มเทา
ต้นเอล์มอเมริกันในตอนนี้ได้เกิดการงอกใหม่ตามธรรมชาติในบางภูมิภาค ซึ่งทำให้มีจำนวนที่ใช้ได้อยู่เป็นที่ ๆ การกระจายพันธุ์ คือการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง แต่ต้นไม้จะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสภาพพื้นที่ รูปร่างของต้นค่อนข้างเล็ก และมักจะมีลำต้นที่แยกออก
ข้อมูลจาก FIA แสดงให้เห็นว่าปริมาณการเติบโตของต้นเอล์มในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 258 ล้าน ม3 คิดเป็น 1.9% ของปริมาณการเติบโตของไม้เนื้อแข็งจากทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ต้นเอล์มนั้นเติบโต 4.7 ล้าน ม3/ต่อปี ในขณะที่การเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 2.5 ล้าน ม3/ต่อปี ปริมาณสุทธิ (หลังจากเก็บเกี่ยว) เพิ่มขึ้น 2.18 ล้าน ม3 ในเเต่ละปี การขยายตัวของต้นเอล์มในสหรัฐอเมริกา มีจำนวนมากกว่าการเก็บเกี่ยวในมลรัฐที่ผลิตส่วนใหญ่ ยกเว้นมลรัฐโอไฮโอ ถึงแม้ว่าต้นเอล์มอเมริกันจะสามารถทนต่อโรคต้นเอล์มดัตช์ได้ ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการเก็บเกี่ยวในบางมลรัฐ แต่ต้นเอล์มอเมริกันยังคงไวต่อการเกิดโรค
ต้นเอล์มจากสหรัฐมีปริมาณทางการค้าที่ค่อนข้างจำกัดและไม้เลื่อยแปรรูปจะได้รับการผลิตด้วยความหนาขนาด 4/4" (25.4 มม.) ดังนั้น ข้อจำกัดด้านผลลัพธ์และเกรดสำหรับการส่งออกอาจกลายเป็นอุปสรรคในการหาซื้อสินค้าได้ตามปกติ แผ่นไม้อัดก็อาจจะหาได้จากซัพพลายเออร์เฉพาะทาง
ไม้เอล์มที่ลายเนื้อไม้แน่นอาจมีลักษณะตรงหรือเชื่อมเข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่น รวมถึงมีพื้นผิวที่หยาบ กระพี้ซึ่งมีลักษณะตีบมีสีเท่าขุ่นไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อน และแก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม รอยจิกกัดของนกสามารถพบได้ในไม้เอล์ม และยังได้รับการพิจารณาให้เป็นลักษณะทางธรรมชาติ มิใช่ข้อบกพร่องตามเกณฑ์การให้เกรดของ NHLA
เนื้อไม้ของต้นเอล์มมีความหนัก แข็ง และทนทานอยู่พอสมควร เนื้อไม้ของต้นเอล์มมีลักษณะแข็งพร้อมกับมีการดัดรูปและความทนต่อแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม
ต้นเอล์มอเมริกันเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการมากสำหรับเครื่องเรือนและการทำตู้เตียง รวมถึงยังใช้สำหรับงานไม้กรอบประตูหน้าต่างภายใน วัสดุทำพื้น และไม้บุฝาผนัง